ปิเก้ คว้าแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 4 สมัย ( 3 กับบาร์เซโลน่า และอีกหนึ่งครั้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) อีกทั้งเขายังได้ทั้งแชมป์โลก และแชมป์ยุโรปมาครบถ้วนแล้ว ในวัยเพียง 28 ปีเท่านั้น
“ผมเองก็ไม่ได้คิดมาก่อนว่า ผมจะสามารถคว้าได้แชมป์มาทุกรายการแบบนี้” ปิเก้ ยอมรับ “ผมยังเหลือเวลาเล่นอีกประมาณ 4-5 ปี แต่ถ้าผมไม่ตั้งใจ ผมก็จะกลายเป็นตัวสำรองทันที แล้วทุกอย่างก็จะจบลง”
สำหรับปิเก้ ซึ่งเคยไม่ค่อยประสบความสำเร็จในอังกฤษมากนัก เขาได้กล่าวว่า แม้สุดยอดทีมแห่งยุคอย่าง บาร์เซโลน่า ถ้าต้องมาเล่นในอังกฤษก็ยากที่จะคว้าแชมป์เช่นกัน
“ผมคิดว่าถ้าแม้ทีมที่สุดยอดอย่าง บาร์เซโลน่า หรือเรอัล มาดริด มาได้มาเล่นในพรีเมียร์ลีกจริงๆ ในปีแรกพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะคว้าแชมป์มาครองได้เลย”
“ผมคิดแบบนั้นจริงๆ นะ มันจะเป็นเรื่องที่ลำบากมาก หากไปเจอกับทีมที่แตกต่างกันอย่างสโต๊ค”
“และในกรณีเดียวกันถ้าสุดยอดทีมอย่างง แมนฯ ยูไนเต็ด หรือเชลซี ไปเล่นในสเปน พวกเขาก็ไม่มีโอกาสจะคว้าแชมป์ในปีแรกได้เหมือนกัน”
ปิเก้ กล่าวถึง รูนี่ย์ ว่า “เขาเป็นเพื่อนที่ดีมาก ตอนที่ผมได้ไปค้าแข่งในอังกฤษ ในตอนนั้น รูนีย์ ยังเด็กมาก แต่เขาก็ช่วยเหลือผมมากทั้งที่เขายังเด็ก เขาช่วยในเรื่องการปรับตัวของผมกับทีม และเขายังสอนภาษาอังกฤษให้กับผมอีกด้วย นอกจากนี้เขายังเป็นตัวตลกประจำห้องแต่งตัวของทีม เพื่อให้พวกเราได้หายเครียดในเวลาที่กดดัน ผมมีความทรงจำที่ดีมากมายเกี่ยวกับเขา”
สำหรับเสียงวิพากษ์ที่มีต่อ รูนีย์ ส่วนตัวของ ปิเก้ ไม่เห็นด้วยนัก ปิเก้บอกกับเราว่า “รูนีย์อาจจะไม่เร็วเหมือนเมื่อก่อน แต่เขายังเชื่อถือได้เสมอในการยิงประตู ทุกคนต้องอายุมากขึ้น แต่สำหรับ ผมเชื่อว่าเขาจะเล่นได้อีกยาวนานมาก”
เขาเชื่อว่าทีม ทีมชาติอังกฤษ กำลังน่าสนใจอย่างมาก เพราะการเก็บชัยชนะรวด 10 นัดในรอบคัดเลือก ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย “สำหรับผม เชื่อว่าหลายอย่างขึ้นอยู่กับระบบเยาวชน ผมยังจำได้ดีตอนที่สเปนคว้าแชมป์ยูโร 2008 ก่อนหน้านั้นพวกเราเจอเสียงวิจารณ์กันอย่างหนักมาก แต่สุดท้ายเราก็ได้แชมป์ยูโร และยังต่อด้วยแชมป์ฟุตบอลโลก และก็กลับมาได้แชมป์ยูโรอีกครั้ง”
“เราจำเป็นต้องมีความศรัทธาในชาติของเราอย่างมาก กับสโมสรนั้นมันสามารถเปลี่ยนแปลงผู้เล่นได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นทีมชาติแล้วละก็ เราไม่สามารถเปลี่ยนประเทศได้ แต่สำหรับอังกฤษ พวกเขาก็กำลังพยายามจะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง”