สำหรับคุณสาวๆ ที่อยากมีผิวสวย บางคนทมีทั้งครีมทาหน้า ไน้ท์ครีม เดย์ครีม เซรั่ม และอีกสารพัดโลชั่นทาตัว แต่บางคนก็มีแค่โลชั่นทาตัวขวดเดียวจบ ในเมื่อคุณมีโลชั่นทาตัวอยู่แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า จะใช้โลชั่นแทนแฮนด์ครีมได้หรือเปล่า1. การบำรุงที่แตกต่าง
ก่อนอื่นคงต้องเล่าให้ฟังเสียก่อนว่า หลักการทำงานของโลชั่นเป็นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอก เมื่อทาโลชั่นลงบนผิว โลชั่นจะซึมเข้าไปในรูขุมขน สู่ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ เสริมสร้างบำรุงผิวจากภายในเซลล์ โลชั่นจึงเหมาะกับผิวในส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีรูขุมขน แต่โลชั่นไม่อาจซึมเข้าไปในผิวส่วนที่ไม่มีรูขุมขนได้
เนื่องจากผิวหนังบริเวณฝ่ามือ หนังบริเวณรอยต่อของเล็บและนิ้ว ตลอดจนตัวเล็บเอง ไม่มีรูขุมขน ส่วนหลังมือก็มีรูขุมขนน้อยกว่าผิวหนังส่วนอื่นๆ หากนำโลชั่นทาตัวมาทามือก็แทบจะเท่ากับว่าไม่ได้บำรุงอะไรให้กับมือและเล็บเลย
แต่แฮนด์ครีมมีหลักการการบำรุงที่แตกต่างออกไป เพราะใช้วิธีเคลือบและปกป้องบำรุงมือจากภายนอกสู่ภายใน จึงเหมาะกับผิวหนังบริเวณที่ไม่มีรูขุมขนเป็นอย่างมาก
2. เนื้อครีมที่แตกต่าง
เนื้อครีมของแฮนด์ครีมมีความหนืดดและเข้มข้นกว่าโลชั่น แฮนด์ครีมจึงติดแน่นอยู่บนมือและเล็บ แม้ว่าจะต้องผ่านการชะล้างด้วยน้ำและหยิบจับสิ่งต่างๆ ตลอดทั้งวันก็ตาม หากนำโลชั่นมาใช้แทนแฮนด์ครีม แค่ล้าง 1-2 ครั้งโลชั่นก็จะหลุดออกหมด ในขณะที่แฮนด์ครีมสามารถผ่านการล้างมือได้ 3 – 6 ครั้งใน 12 ชั่วโมง
3. การบำรุงเล็บที่มีในแฮนด์ครีมอย่างเดียวเท่านั้น
โดยปกติแล้วเวลาที่เราทาแฮนด์ครีมบนมือ ก็มักจะทาทับทั้งมือและเล็บ แฮนด์ครีมส่วนใหญ่จึงมักผสมวิตามินอีลงไป เพื่อบำรุงเล็บให้แข็งแรงด้วย ต่างจากโลชั่นที่จะไม่มีวิตามินตัวนี้แต่ประการใด การนำโลชั่นมาทาแทนแฮนด์ครีมจึงทำให้เล็บไม่แข็งแรงและเปราะหักง่าย
เพราะการบำรุงที่แตกต่างของโลชั่นและแฮนด์ครีม ทำให้โลชั่นเหมาะกับผิวส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่มีรูขุมขนมาก ในขณะที่ให้แฮนด์ครีมเหมาะกับมือและเล็บที่ไม่มีรูขุมขน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรคุณถึงไม่ควรใช้โลชั่นแทนครีม และในเมื่อคนอุตส่าห์มีทั้งเซรั่ม เฟชเชียลไนท์ครีม เดย์ครีม และโลชั่นอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งแล้ว จะมีแฮนด์ครีมพิ่มอีกสักหนึ่งหลอด ก็คงจะไม่ได้ก่อปัญหาอะไรให้คุณมากนัก คิดว่าไม่มีใครที่อยากให้หน้าสวยเป๊ะปัง แต่มือกลับแก่กว่าวัย 10-20 ปีหรอก ใช่ไหมล่ะ