หนัง

จุดจบหนังไทยคงจะมาจากสิ่งเหล่านี้จริงๆ

มิถุนายน 16, 2020

หนังต่างประเทศตอนนี้พัฒนาไปเกินกว่าจะคาดเดากันแล้ว แล้วไม่พอแค่นั้น เนื้อเรื่องที่เราสามารถคาดเดาได้ก็ไม่สามารถที่จะเดาอะไรได้อีกต่อไป อย่างกับหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ ก็เกินกว่าจะคาดเดา ตัวร้ายที่คิดว่าต้องพ่ายแพ้ให้กับเหล่าคนดี ต่อสู้กันเมื่อไหร่คนดีไม่ว่าจะบาดเจ็บแค่ไหนก็จะต้องชนะอธรรมอยู่ดี แต่ตอนนี้เหมือนว่าฝ่ายอธรรมจะมีความคิดที่น่าสนใจและคิดถูกไปเป็นส่วนใหญ่ เพราะโลกเรามีคนมีสิ่งมีชีวิตที่เกินความจำเป็นมากเกินไปทำให้ ทรัพยากรไม่เพียงพอ และอีกไม่นานโลกก็จะต้องดับสูญ แต่ผู้ร้ายต้องการจะมาช่วยโลกให้ย้อนกลับไปเหมือนเมื่อร้อยปีที่แล้วและให้คนรุ่นนี้ได้ทำการคิดการใหม่ ให้คนรุ่นใหม่เข้าใจว่าทรัพยากรนั้นต้องใช้สอยอย่างพอเพียงและต้องเติมให้กับสิ่งเหล่านี้ด้วย เรื่องทั้งหมดก็กลับกลายเป็นว่า ผู้ร้ายคิดถูกและกำลังทำการที่ถูกต้องแต่เมื่อฝ่ายธรรมะไม่ได้คิดแบบนั้น ก็ต้องการปกป้องคนที่รักและคนที่อยู่ให้อยู่รอดกันทุกคน เมื่อทุกคนเกิดมาแล้วก็ต้องได้รับการปกป้อง คิดกันไปคนละฝ่ายสุดท้าย ฝ่ายอธรรมก็เป็นฝ่ายชนะ ทำการสำเร็จ และได้ทำการสำเร็จไปถึง 5 ปี
คงไม่ต้องบอกว่าเป็นหนังเรื่องอะไรคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ก่อนที่จะดูก็พูดวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา (ไม่เฉลยหรอกนะว่าหนังเรื่องอะไร) แต่พอมาถึงตอนจบ เรื่องกลับกลายเป็นหนังคนละม้วน ก่อนเข้าไปดูก็คิดไปอีกอย่างแต่พอดูแล้วได้แง่คิดกลับมาใหม่ มันแปลกมาก ทำให้ความคิดเราเปลี่ยนได้จริงๆ เรื่องราวเพียงแค่สองชั่วโมงกว่าๆ ทำให้หลายคนหรือเกือบจะทั้งหมดที่ได้ดูหนังเรื่องนี้กลับมาคิดกันใหม่ ความจริงเป็นอย่างที่ฝ่ายอธรรมได้บอกจริงไหม ความคิดเปลี่ยนทันที น่าแปลกมากที่หนังทำออกมาได้ดีเกินคาด ทำร้ายได้มหาศาลและที่ดีกว่านั้น หนังแนวนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีวันจบด้วย
แล้วกลับมาดูวงการหนังไทยบ้านเรา ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอย่างไรดีไม่แน่ใจว่าวงการบ้านเราไม่มีอะไรใหม่เลย เพราะไม่มีคนรุ่นใหม่ออกมาทำหรือ ว่ากำลังโดนปิดกั้นอะไรบางอย่างจากผู้ใหญ่ที่มีความคิดแค่ว่า 1+1=2 แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ ในความเป็นจริงคำตอบอาจจะมีเหมือนเดิมทุกครั้งก็ได้แต่วิธีการจะเป็นแบบไหนก็ต้องลองปรับเปลี่ยนดูบ้าง ได้เปิดมิติใหม่แห่งวงการ อย่างตอนนี้โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตเราอย่างมาก ถึงมากที่สุด การโฆษณาก็ต่างไปแล้วไม่ต้องมาทำโฆษณาราคาแพงๆ แบบแต่ก่อน เพียงแค่ให้ดาราหยิบจับไม่กี่ครั้งแล้วก็เห็นกันบ่อยๆ เท่านี้ก็ได้ซึมซับเข้าไปอยู่ในหัวสมองของคนดูกันแล้ว ขนาดวงการเล็กๆที่ทำเงินก็ยังเปลี่ยนแล้ววงการหนังไม่คิดจะปรับเปลี่ยนบ้างหรือ นำเข้าผู้รู้จริง นำเข้าสื่อต่างๆ มาปรับใช้กันหน่อย ลงทุนเพียงครั้งแต่ผลตอบแทน อาจจะเป็นการตอบแทนแบบตลอดกาลก็ได้ ใครจะไปรู้ เริ่มปรับเปลี่ยนความคิดกันใหม่ได้แล้ว ปรับง่ายๆด้วยการเสพสื่อต่างชาติให้มากๆ เดี๋ยวความคิดเราก็เปลี่ยนเอง ง่ายเพียงเท่านี้แล้วคิดอะไรอยู่ทำไมไม่ทำ